อาหารพื้นบ้านของอากิตะ

ต้นกำเนิดของคิริทัมโบ(kiritampo) นั้นมีข้อสันนิษฐานมากมาย แต่ที่คนส่วนรู้จักกันคือการนำข้าวที่ผ่านการทุบแล้วมาปั้นเป็นก้อนเสียบไม้กินของชาวนา ในตอนแรกนั้จะถูกเรียกว่า "ทัมโป" เนื่องจากรูปร่างเหมือนหอกทัมโบที่จะมีลูกตุ้มที่ทำจากฝ้ายอยู่ด้านบน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการถูกเรียวกว่า "คิริทัมโบ"เมื่อมันถูกนำมาตัดเป็นชิ้นๆใส่ในหม้อไฟ ซึ่งคำว่าตัดในภาษาญี่ปุ่นนั้นคือ "คิริ"  ยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคิริทัมโป แต่ทุกเรื่องเล่าก็ล่วนแต่เล่าถึงการที่มันถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นอาหารพื้นบ้านตามการดำรงชีวิตของชาวนา ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าคิริทัมโปนั้นสะท้อนถึงความเป็นอยู่และประเพณีของคนในพื้นที่ซึ่งทำในคิริทัมโปมีความพิเศษเฉพาะพื้นที่

ถึงแม้ปัจจุบันคิริทัมโปจะถูกกระจายไปอย่างแผ่หลาย ซึ่งทำให้การทำและการทานคิริทัมโปนั้นมีความหลากหลายไปด้วย ที่โอดาเตะได้ถูกมองว่าเป็นที่สำหรับคิริทัมโปที่แท้จริง คุณอาจคิดว่าคิริทัมโบที่แท้จริงอาจหมายถึงวิธีการทำที่เป็นพิเศษเฉพาะตัว แต่ในโอดาเตะ(Odate) คิริทัมโปอันใดก็ตามที่ถูกทำขึ้นในแต่ละครัวเรือนถือว่าเป็นคิริทัมโปที่แท้จริง มีวิธีการทำคิริทัมโปหลายรูปแบบที่เราสามารถสนุกได้ในการทำได้ เช่น การผสมและตำข้าว ความนานในการย่าง และ การปรุงรสชาติ วิธีการที่แตกต่างในการทำคิริทัมโปของแต่ละบ้านนั้นคือสิ้งที่ดีที่สุดสำหรับอาหารพื้นบ้านนี้

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา มีนักศึกษาจากอากิตะ รวมถึงนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศได้เยี่ยมชมโอดาเตะและลองทำคิริทัมโปกับชาวบ้าน คุณอิชิกากิเริ่มทำคิริทัมโปกับครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก

คุณอิชิกากิพูดว่า (Mrs. Ishigaki) "ตอนเราทำคิริทัมโป เรานึ่งข้าวให้ตายกึ่งหนึ่ง"
นี่อาจฟังดูน่ากลัวแต่นี่เป็นเคล็ดลับการทำคิริทัมโปที่ดี คำอธิบายที่ว่านึ่งให้ตายกึ่งหนึ่ง(half-dead) หรือ ฮันโกโรชิ(hangoroshi) ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงเนื้อสัมผัสที่ยังคงความเป็นเมล็ดข้าวอยู่กึ่งหนึ่ง ฮันโกโรชิคือผิวสัมผัสระหว่างข้าวนึ่งและข้าวที่ถูกทุบแล้ว (โมจิ) คุณสามารถได้รสสัมผัสที่หลากหลายของข้าวในเวลาเดียวกันเมื่อคุณทานมัน

หลังจากที่ได้นำข้าวแปะรอบไม้แล้ว ก็จะนำไปย่างแบบดั่งเดิม ที่บ้านของคุณอิชิกากิจะทานคิริทัมโปกับมิโซะรสเผ็ดที่เธอทำขึ้นมาเอง คิริทัมโปนั้นอร่อยมากเมื่อนำมาใส่หม้อไฟ หม้อไฟที่ใส่คิริทัมโปนั้นจะเรียกว่า "คิริทัมโปนาเบะ" ไก่ที่ขึ้นชื่อของโอดาเตะ "ไฮเน จิโดริ" ก็จะถูกนำมาใส่ในหม้อซุปด้วย นี่เป็นหม้อไฟที่อาจทำให้คุณหลงไหลในโอดาเตะ

คุณอิชิกากิกล่าวว่า "ฉันมีความสุขเมื่อเห็นคนอื่นชอบอาหารที่ฉันทำกินมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้ฉันยังอยากให้พวกเขาได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับการทำอาการพื้นบ้านและรู้จักวัฒนธรรมของพื้นที่แห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน"

ความประทับใจ

ฉันคิดว่านี่เป็นฤดูที่ดีที่สุดที่จะลองกินอาหารญี่ปุ่น เพราะว่าทั้งสดและหลากหลาย วันนี้เรากำลังจะมาลองเมนูใหม่ โดยปกติแล้วฉันไม่กินคงเนียคุ(Konnyaku)หรือบุก นี้เป็นครั้งแรกที่ได้ลองกินคงเบียคุรสบ๊วยญี่ปุ่น (Ume plum) หลักจากนี้คงทำฉันกินอยากกินคงเบียคุหรือบุกอีก ฉันดีใจที่ได้มาที่นี่ ได้กินอาหารอร่อยๆ นี่เป็นคิริทัมโปที่ดีที่สุดเท่าที่ได้เคยกินมา ข้าวใหม่ที่ถูกย่างบนอิโรริ