พายุได้มาถึง ล่าสุดพวกเราไปเห็นการตกปลามัจจุลาภนี้แต่เราก็ไม่เห็นมันสักตัว หลังผ่านไป 5 วัน เราได้ข่าวมาว่ามีปลาฮะตะฮะตะมากมายเลยที่ท่าเรืออากิตะซึ่งเราก็ได้แวะไปดู ช่วงนั้นอากาศหนาวมากประมาณ -5 องศาได้ แต่ที่นั้นมีคนเต็มไปหมดเลย

เรายืนอยู่ตรงจุดที่มีคนมากมายกำลังมองดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาแต่ละคนพกเบ็ดตกปลามา แต่ยังไม่มีใครที่ตกได้ปลาฮะตะฮะตะ เราพยามยามตกปลาเหมือนกับพวกเขาแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย คนที่ยืนตกอยู่ข้างเราเขาบอกว่า ปลาฮะตะฮะตะกำลังว่ายอยู่และเราอาจจะได้ปลาเยอะในครั้งหนึ่งเมื่อมันว่ายเกยตื้นเข้าฝั่งมา “เราจำเป็นต้องรออย่างใจจดใจจอ”

ปลาฮะตะฮะตะ

ปลาฮะตะฮะตะเป็นปลาที่รู้จักทั่วไปในจังหวัดอากิตะ มันมีลักษณะตัวสีขาวและชอบอาศัยอยู่ในระดับ 500 เมตร ของระดับน้ำทะเล เวลาว่างไข่พวกมันจะไว้เข้าฝั่งเพื่อทำการวางไข่ในวันที่มีพายุเข้าและเป็นวันสิ้นสุดปี ปลาฮะตะฮะตะเป็นปลาที่คนอากิตะรู้จักกันเป็นอย่างดีซึ่งชาวอากิตะจะนำมันมาใช้ประกอบอาหารอย่างเช่น หม้อไฟหรือใช้ทำเป็นน้ำปลา

มีใครบางคนพูดว่า “มันว่ายเข้ามาแล้ว!!!” ในตอนที่พวกเรายืนหนาวอยู่ คนอื่นได้เตรียมพร้อมสำหรับการตกปลา ฝูงปลาฮะตฮะตะได้ว่ายเข้ามาหาฝั่ง ซึ่งในที่สุดผมก็ตกได้ตัวหนึ่งว้าวว ตัวที่ตกได้ยาวประมาณ 20 เซนติเมตรและก็สวยมาก ตัวมันลื่นมากๆ แถมยังไม่มีเกล็ดอีกด้วย ตัวเดียวมันคงไม่พอท้องต้องขอตกต่ออีก จนเมื่อผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ทุกอย่างก็เงียบสงัดและปลาก็ได้ว่ายหนีไปหมด เราตกมันได้หลายครั้งและมีบางคนสามารถตกได้มากกว่า 100 ตัวแน่ะ

โชทูรู-นาเบะ: น้ำปลากับหม้อไฟ

เราได้เรียนรู้การทำน้ำปลาและหม้อไฟเมื่อตอนเรากลับมาจาการตกปลาอันเมามันส์ ซึ่งน้ำปลานั้นเรียกว่า “โชทูรู” และมันก็เป็นน้ำปลาที่เข็มมากซึ่งได้จากการหมักปลาฮะตะฮะตะ เขาใช้ปลาฮะตะฮะตะ ผักบ้างและก็น้ำปลานิดหนึ่งสำหรับหม้อไฟหม้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นปลาตัวผู้หรือตัวเมียก็ผสมมันรวมกันในหม้อนี้เช่นกัน ปลาฮะตะฮะตะตัวเมียไข่มันจะเยอะตรงช่วงท้อง มันตัวเล็กกว่าปลา อีกูระและมีรวดลายที่เป็นเอกลักษณ์(เยอรมันนี)